มาแล้วค่าาา"ธาตุอาหารรอง แมกนีเซียม แคลเซียม "เม็ดสวยๆๆ..นำไปใช้ในไร่เองหรือจะเป็นตัวแทนจำหน่ายติดต่อได้เลยค่าาา มีเอกสารถูกต้องผลวิเคราะห์ที่ได้มาตรฐานรับรองจากกรมวิชาการเกษตร

อัพเดทล่าสุด 8 ก.ย. 2564 14:57:14 น. เข้าชม 434 ครั้ง

ราคา ไม่ระบุ

  • ผู้ลงประกาศ : ศิรเศรษฐ์
  • ความต้องการ : ขาย
  • สภาพสินค้า : ไม่ระบุ
  • วันที่ลงประกาศ : 8 ก.ย. 2564
  • จังหวัด : กาญจนบุรี
  • อัพเดทล่าสุด : 8 ก.ย. 2564 14:57:14 น.
  • เบอร์โทรศัพท์ : 0819074919
  • ID Line : 0819074919
  • Facebook : คลิก
  • Email : zongfour2000@gmail.com
  • ที่อยู่ : 52/79
  • เลือกซื้อสินค้าของทางร้าน : http://www.silaphat.com

รายละเอียดประกาศ

มาแล้วค่าาา"ธาตุอาหารรอง แมกนีเซียม แคลเซียม "เม็ดสวยๆๆ..นำไปใช้ในไร่เองหรือจะเป็นตัวแทนจำหน่ายติดต่อได้เลยค่าาา มีเอกสารถูกต้องผลวิเคราะห์ที่ได้มาตรฐานรับรองจากกรมวิชาการเกษตร

แมกนีเซียม (MgO) 3 % แคลเซียม (CaO) 25 %

ประโยชน์  เป็นส่วนประกอบของคลอโรฟิลล์ หรือสีเขียวที่พืชใช้ในการสังเคราะห์แสง ช่วยให้ใบพืชมีสีเขียวเข้มมากขึ้น  ช่วยในการสร้างพลังงาน ดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ไปใช้ได้มากขึ้น ช่วยการเจริญเติบโตของต้นพืช และช่วยในการเคลื่อนย้ายธาตุฟอสฟอรัสในพืช เป็นโครงสร้างผนังเซลล์ของพืช ทำให้พืชมีความแข็งแรง และช่วยในการสร้างโปรตีน ช่วยขยายขนาดของผล และป้องกันไม่ให้ผล เถา หรือผักแตก ทำให้เนื้อแน่น ป้องกันแกนไส้นิ่ม รสชาติและสีดีขึ้น ช่วยในการเคลื่อนย้ายน้ำตาลจากลำต้น ใบมาสู่ผล และเมล็ด สามารถเก็บสะสมอาหาร ผลมีการพัฒนาเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ ลดปัญหาการหลุดร่วงของผลได้

พืชที่แนะนำให้ใช้ พืชไร่ ไม้ผล ไม้ดอกและไม้ประดับ พืชผัก

           พืชไร่ เช่น มันสำปะหลัง ฝ้าย ปอแก้ว อ้อย

           มันสำปะหลัง ใส่ปุ๋ยเคมีครั้งเดียว เป็นหลุมสองข้างต้นแล้วพรวนดินกลบ ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 30-40 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่ออายุ 1-2 เดือน หรือหลังการกำจัดวัชพืชครั้งแรก

ฝ้าย ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 40 กิโลกรัมต่อไร่ โดยแบ่งใส่เป็นสองครั้งเท่า ๆ กัน ครั้งแรกใส่ 20 กิโลกรัมต่อไร่ โดยโรยเป็นแถวรองก้นหลุมก่อนปลูก ครั้งที่สองใส่ 20 กิโลกรัมต่อไร่ หลังจากใส่ปุ๋ยเคมีครั้งแรก 30-90 วัน โดยวิธีโรยสองข้างแถวก่อนพูนดินกลบ

ปอแก้ว ใช้ปุ๋ยเคมีเพียงครั้งเดียวโรยตามข้างแถวปลูก แล้วพรวนดินกลบ เมื่อปอมีอายุ 15-20 วัน ในอัตรา 25กิโลกรัมต่อไร่

อ้อย ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 30-50 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี ดังนี้

อ้อยปลูก แบ่งใส่เป็นสองครั้งเท่า ๆ กัน ใส่ครั้งแรกหลังปลูกประมาณ 1 เดือน ใส่ครั้งที่สองหลังจากใส่ครั้งแรกประมาณ 30-60 วัน

อ้อยตอ นอกเขตชลประทาน ครั้งแรกต้นฤดูฝน ครั้งที่สองหลังจากใส่ครั้งแรกประมาณ 30-60 วัน โดยวิธีโรยข้างแถว

อ้อยตอ ในเขตชลประทาน ครั้งแรกใส่ทั้งหมดหลังตัดแต่งตอ ครั้งที่สองใส่ปุ๋ยเคมีแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) อัตรา 20-40 กิโลกรัมต่อไร่ หลังจากใส่ครั้งแรก 30-60 วัน โดยวิธีโรยข้างแถว ควรใส่ปุ๋ยเคมีขณะที่ดินมีความชื้นพอเหมาะและต้องพรวนดินกลบปุ๋ยเคมี

ไม้ผล ใส่ปุ๋ยเคมีบริเวณทรงพุ่มแล้วพรวนดินกลบในอัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของต้น และในปีหนึ่ง ๆ ควรแบ่งในปุ๋ยเคมีประมาณ 3 ครั้ง

พืชผัก ใส่เมื่อพืชตั้งตัวดีแล้วแบ่งใส่สองครั้ง ครั้งแรกใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 20-30 กิโลกรัมต่อไร่ โดยวิธีหว่านหรือรองก้นหลุม ครั้งที่สองใช้ปุ๋ยเคมีอัตราเดียวกับครั้งแรก หลังจากใส่ปุ๋ยเคมีครั้งแรก 15-30 วัน โดยวิธีโรยข้างแถว

ไม้ดอกไม้ประดับ ถ้าปลูกเป็นไร่ใช้เช่นเดียวกับพืชผัก ถ้าปลูกเป็นกระถางใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 5-15 กรัมต่อกระถาง

ธาตุแคลเซียม - CALCIUM

หน้าที่สำคัญของธาตุแคลเซียมในพืช

????มีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับโครงสร้างของผลไม้

????ช่วยเสริมสร้างเซลล์และการแบ่งเซลล์ของพืช ซึ่งพืชต้องการอย่างต่อเนื่อง

????ช่วยในการสร้างเซลล์และโครงสร้างของเซลล์ของพืช

????ช่วยให้เซลล์ติดต่อกัน และจะช่วยเชื่อมผนังเซลล์ให้เป็นรูปร่าง และขนาดให้เป็นไปตามลักษณะของพืชแต่ละชนิด

????ช่วยเพิ่มการติดผล

????ช่วยให้สีเนื้อและสีผิวของผลสดใส

????ช่วยลดการเกิดเนื้อของผลแข็งกระด้าง และเนื้อแฉะ

????ช่วยป้องกัน ผลร่วง ผลแตก

????มีบาทบาทที่สำคัญในระยะการเจริญเติบโตและการออกดอกของพืช

????มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการย่อยธาตุไนโตรเจน

????เป็นตัวช่วยลดการหายในของพืช

????เป็นตัวช่วยเคลื่อนย้ายน้ำตาลจากใบไปสู่ผล

‼️การแสดงอาการของพืชที่ขาดธาตุแคลเซียม‼️

ใบอ่อนที่แตกออกมาใหม่จะหดสั้นและเหี่ยว แม้ว่าใบเก่าจะมีธาตุแคลเซียมอยู่ เนื่องจากธาตุแคลเซียมไม่เคลื่อนย้ายจากใบเก่าสู่ใบใหม่

ใบอ่อนที่ขาดธาตุแคลเซียมจะมีสีเขียวแต่ปลายใบจะเหลือง และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและจะตายในที่สุด

ถ้าขาดธาตุแคลเซียมที่บริเวณขั้วหรือข้อต่อของผลจะทำให้เกิดแก๊สเอธีลีน(Ethylene) เป็นเหตุให้ผลร่วง

พืชหลายชนิดที่ขาดธาตุแคลเซียม เช่น มะเขือเทศ แตงโม พริก แตงกวา จะเกิดการเน่าที่ส่วนล่างผล,

ในผักขึ้นฉ่ายจะแสดงอาการไส้ดำ, ในแครอดจะแสดงอาการฟ่ามที่หัว, ในแอปเปิลจะมีรสขม,

ในมันฝรั่งจะแสดงอาการเป็นสีน้ำตาลบริเวณกลางหัว,

ในพืชลงหัวต่าง ๆ เช่น ผักกาดหัว(หัวไชเท้า) หอม กระเทียม จะแสดงอาการไม่ลงหัว หรือลงหัวแต่หัวจะไม่สมบูรณ์

ในพืชไร่ ต้นจะแตกเป็นพุ่มแคระเหมือนพัด

แสดงอาการที่ราก คือ รากจะสั้น โตหนามีสีน้ำตาล ดูดอาหารไม่ปกติ

ในระยะพืชออกดอก ติดผล ถ้าพืชขาดธาตุแคลเซียม ตาดอกและกลีบดอกจะไม่พัฒนา ดอกและผลจะร่วง

⁉️สภาพแวดล้อมที่พืชขาดธาตุแคลเซียม⁉️

❗️ในดินที่มีค่าของความเป็นกรดเป็นด่าง(pH) ระหว่าง 4.0-7.0 และ 8.5 ขึ้นไป

❗️เมื่อให้ธาตุไนโตรเจนมาก

❗️เมื่อให้ธาตุโพแทสเซียมมาก

❗️เมื่อพืชแตกใบอ่อน แม้ว่าใบแก่จะมีธาตุแคลเซียม ทั้งนี้เนื่องจากธาตุแคลเซียมไม่เคลื่อนย้ายในพืช

❗️เมื่อพืชแตกใบอ่อนต้องให้ธาตุแคลเซียมอยู่เสมอ

ธาตุแคลเซียมจะมีความสมดุลกับธาตุโบรอนและธาตุแมกนีเซียมในพืช ถ้าไม่มีความสมดุลระหว่างธาตุทั้ง 3 ชนิด พืชจะแสดงอาการผิดปกติ

❗️ธาตุแคลเซียมจะสูญเสียไปในดิน กลายเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งพืชไม่สามารถดูดไปใช้ได้

ในดินที่เป็นกรด จะตรึงธาตุแคลเซียมไว้ ทำให้พืชไม่สามารถดูดไปใช้ได้

แมกนีเซียม (MgO)      

ประโยชน์  เป็นส่วนประกอบของคลอโรฟิลล์ หรือสีเขียวที่พืชใช้ในการสังเคราะห์แสง ช่วยให้ใบพืชมีสีเขียวเข้มมากขึ้น  ช่วยในการสร้างพลังงาน ดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ไปใช้ได้มากขึ้น ช่วยการเจริญเติบโตของต้นพืช และช่วยในการเคลื่อนย้ายธาตุฟอสฟอรัสในพืช

เป็นองค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ (สีเขียว) ในพืช

- ช่วยสร้างโปรตีน ไขมัน วิตามิน และน้ำตาลในพืช

- ส่งเสริมการน้ำธาตุฟอสฟอรัสไปสู่ลำต้น

- ทำให้สภาพกรดด่างในเซลล์เหมาะสม

ปุ๋ยเคมี ธาตุอาหารรอง - เสริม ตรา ธิดาเงิน

-ช่วยเพิ่มผลผลิตให้แก่เกษตกร

-ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับพืช

-ต้านทานเชื้อโรค เชื้อราในดินได้เป็นอย่างดี

-ช่วยปรับสภาพดินให้เป็นดินที่ดีได้ทันที

-สร้างความอุดมสมบูรณ์ในดิน

-ช่วยให้พืชได้รับธาตุอาหารมากขึ้น

โดยขบวนการผลิตของทางโรงงานได้คัดเลือกวัสดุเกรดเอเพื่อนำมาปั้นเม็ดแล้วคัดแยกเม็ดปุ๋ยที่ได้คุณภาพและเม็ดที่สวยงาม

คุณสมบัติปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง - เสริม ตราธิดาเงิน

• เพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ยเคมี และให้ปุ๋ยเคมีออกฤทธิ์ทนนาน

• เสริมสร้างธาตุอาหารรองให้พืช เนื่องจากปุ๋ยเคมี มีเฉพาะธาตุหลัก N.P.K เท่านั้น

• เร่งการเจริญเติบโตของต้นพืชทำให้ต้นพืชแข็งแรง ทนต่อโรคพืชและแมลงรบกวน

• ช่วยปรับสภาพดินให้เหมาะกับการปลูกพืชทุกชนิด และทำให้ดินร่วนซุ่ย

• พืชขาดธาตุอาหารรอง-เสริม จะทำให้เกิดใบหยิก ใบงอ ใบแห้ง ใบเหลือง ลูกร่วง ดอกหล่น ผลแตก รสชาติไม่ดี ขั้วไม่เหนียว

วิธีการใช้

นาข้าว อัตราการใช้

46-0-0 1 กระสอบ + ธาตุอาหารรอง 2 กระสอบ หว่านได้ 4 -6 ไร่

36-0-0 1 กระสอบ + ธาตุอาหารรอง 2 กระสอบ หว่านได้ 4 -6 ไร่

30-0-0 1 กระสอบ + ธาตุอาหารรอง 2 กระสอบ หว่านได้ 4 -6 ไร่

หมายเหตุ เพื่อลดต้นทุน

ไร่ข้าวโพด , อ้อย , มันสำปะหลัง , หอม , กระเทียม , หอมหัวใหญ่ อัตราการใช้

15-15-15 1 กระสอบ + ธาตุอาหารรอง 2 กระสอบ หว่านได้ 4 -6 ไร่

25-7-7 1 กระสอบ + ธาตุอาหารรอง 2 กระสอบ หว่านได้ 4 -6 ไร่

8-24-24 1 กระสอบ + ธาตุอาหารรอง 2 กระสอบ หว่านได้ 4 -6 ไร่

15-5-35 1 กระสอบ + ธาตุอาหารรอง 2 กระสอบ หว่านได้ 4 -6 ไร่

หมายเหตุ เพื่อลดต้นทุน

ยางพารา อัตราการใช้

20-10-12 1 กระสอบ + ธาตุอาหารรอง 2 กระสอบ หว่านได้ 4-6 ไร่

20-8-20 1 กระสอบ + ธาตุอาหารรอง 2 กระสอบ หว่านได้ 4-6 ไร่

15-7-18 1 กระสอบ + ธาตุอาหารรอง 2 กระสอบ หว่านได้ 4-6 ไร่

หมายเหตุ เพื่อลดต้นทุน

ปาล์มน้ำมัน , สับปะรด อัตราการใช้

25-7-7 1 กระสอบ + ธาตุอาหารรอง 2 กระสอบ หว่านได้ 4-6 ไร่

15-5-35 1 กระสอบ + ธาตุอาหารรอง 2 กระสอบ หว่านได้ 4-6 ไร่

ติดต่อ คุณเหมย Tel 088-586-3704,081-907-4919

Id Line : 0819074919

http://www.silaphat.com

จด,ทะเบียนปุ๋ย,วิเคราะห์ปุ๋ย,ลิขสิทธิ์,แบรนด์,สินค้า,ปุ๋ย,เครื่องหมายการค้า,ปุ๋ยอินทรีย์,ปุ๋ยเคมี,สารปรับสภาพดิน,ธาตุอาหารรองเสริม,โรงงาน,ผลิต,รับผลิต,ธาตุอาหารรอง,ธาตุอาหารเสริม,ฟิลเลอร์สี,รับผลิตปุ๋ย,แมกนีเซียมซัสเฟส, magnesium sulfate,กลีเซอร์ไรด์, Kieserite,จิบเบอเรลลิน, gibberellin,ไตรโคเดอร์ม่า

#จด #ทะเบียนปุ๋ย #วิเคราะห์ปุ๋ย #ลิขสิทธิ์ #แบรนด์ #สินค้า #ปุ๋ย #เครื่องหมายการค้า #ปุ๋ยอินทรีย์ #ปุ๋ยเคมี #สารปรับสภาพดิน #ธาตุอาหารรองเสริม #โรงงาน #ผลิต #รับผลิต #ธาตุอาหารรอง #ธาตุอาหารเสริม #ฟิลเลอร์สี #รับผลิตปุ๋ย #แมกนีเซียมซัสเฟส  #magnesium sulfate #กลีเซอร์ไรด์  #Kieserite #จิบเบอเรลลิน  #gibberellin #ไตรโคเดอร์ม่า

 

ประกาศที่เกี่ยวข้อง